1 ก.ค. 2554

ทาฟต้า(TFRTA)

            
               หลายคนคง "งง" ว่าทำไมคราวนี้ผมมาแปลก อยู่ดีๆ มาที่เรื่องนี้ได้ไง หรือไม่หลายคนก็อาจจะไม่รู้จัก "ทาฟต้า(TFRTA)" ว่าคืออะไร ที่จริง ทาฟต้า(TFRTA) ก็คือสถาบันที่เปิดสอนหรือ อบรมเกี่ยวกับเรื่องดับเพลิงและกู้ภัยชั้นสูง และที่วันนี้ผมเอาเรื่องนี้มาลง ก็เพราะ ว่าเห็นว่าเป็น ประโยชน์ และ ก็มีความประทับใจเป็นการส่วนตัวด้วยครับ ทั้งเรื่องของหลักสูตรการอบรม และ ตัวบุคล อาจารย์ผู้สอน รวมทั้ง สภานที่ด้วยครับ เพราะเท่าที่ผมเคยได้รับการอบรมมาจากหลายๆครั้ง ก็ส่วนมาก บริษัทในเมืองไทยก็จะจัดอบรบ แค่พอเป็น พิธี ให้พอผ่านกฏหมาย Safety ขององค์กร ก็พอเลยไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่ เพราะบางอย่างฟังบ้างหลับบ้าง พออบรมเสร็จ ก็ลืม ไม่ค่อยได้ลงมือ ปฏิบัติจริง แต่พอผมได้มาสัมผัสรูปแบบการอบรมที่นี่แล้ว บอกได้คำเดียวครับ ว่า ประทับใจมากๆ เดี๋ยวจะว่าโม้ครับ ก่อนอื่นก่อนที่ผมจะ เล่าประสบการณ์ ส่วนตัวที่ได้รับจากการฝึกอบรมที่นี่ ผมก็จะขอนำข้อมูลหรือ ประวัติที่เกี่ยวข้อง กับ สถาบันนี้ มาให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันก่อนน่ะครับ

      เริ่มจาก คำพูดจากความรู้สึกของ ผู้ก่อตั้ง สถาบันนี้เลยน่ะครับ ท่านเป็นทั้งผู้ก่อนตั้ง และเป็น อาจารย์ ผู้สอน "คุณ ชาติชาย ไทยกล้า"


               “ ผมเชื่อ และรับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำเสมอผมโชคดีที่มีครอบครัวที่อบอุ่นให้กำลังใจเสมอมาโดยมีพื้นฐานของแผ่นดินเกิดที่สมบูรณ์ที่สุด ผมเคยอยู่ในองค์กร ที่ให้ความรู้ ที่ให้โอกาสจนได้ฝึกฝนจน แข็งแรง จนมีวันนี้ วันที่สามารถทำงานให้กับแผ่นดินเกิด ซึ่งเป็นแผ่นดินที่ผมมีความภาคภูมิใจเป็นที่สุดได้ตราบจนทุกวันนี้และเราก็ยังคงมีความตั้งใจที่จะทำต่อไปจนกว่าจะหมดกำลัง หรือวันที่เราพลาดพลั้งทั้งโดยทางตรง ทางอ้อมจนสูญเสีย สูญสิ้น อาจจะถึงชีวิตก็ตามผมก็พร้อมที่จะไปเสมอ เพราะเป็นหน้าที่ของลูกผู้ชายไทยทุกคนควรต้องคิดอยู่ในใจเสมอและให้ถามตนเองตลอดเวลาว่า


   " เกิดมาชาติหนึ่งให้อะไรคืนทดแทนแผ่นดินเกิดบ้าง และคุ้มกันกับที่แผ่นดินต้องรับน้ำหนักตัวเราหรือเปล่า?
          นี่คือคำมั่นสัญญาของ คุณชาติชาย ไทยกล้า ผู้อำนวยการสถาบันฝึกดับเพลิงและกู้ภัยชั้นสูง ทาฟต้า(TFRTA) ที่ได้อุทิศตัวให้กับวงการดับเพลิงบ้านเรา คุณชาติชาย เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ และอดีตคณะทำงาน ที่ปรึกษาด้านป้องกันอุบัติภัย ฯพณฯ รองนายกรัฐมนตรี นาย จาตุรนต์ ฉายแสง และเป็นครูฝึกมาตรฐานการดับเพลิงทั้งทางบก ทางเรือ ทางน้ำ และทางอากาศ ปัจจุบันคุณชาติชาย ได้ทำหน้าที่ครูฝึกสอนดับเพลิงให้กับคนไทยอย่างสุดความสามารถ

         จากประสบการณ์ที่ต้องผจญเพลิงทั้งในและต่างประเทศมากว่า 20 ปีของ “ชาติชาย ไทยกล้า” จึงได้นำความรู้ความสามารถที่ได้รับการฝึกฝนจากอเมริกา มาเปิดเป็นสถาบันสอนดับไฟ ที่ไม่เฉพาะคนไทยเท่านั้นที่มาเรียน ยังมีคนต่างชาติยังแห่มาเรียนกันเพียบ เพราะที่นี่คิดค่าสอนไม่แพงถ้าเทียบกับความรู้ที่ได้และราคายังต่อรองกันได้ถ้าเพื่อสาธารณะประโยชน์และคนไทยกันเอง สถาบันแห่งนี้เปิดสอนมาแล้วเกือบ 10 ปี ซึ่งสอนวิธีการดับเพลิงหลากหลายรูปแบบ ให้แก่พนักงานบริษัท และชาวต่างประเทศ มีผู้ผ่านการเรียนที่สถาบันแห่งนี้แล้วไม่ต่ำกว่า 13,000 คน ซึ่งสถาบันจะสอนทุกอย่างที่เป็นเรื่องใกล้ตัว ได้แก่ สอนการดับไฟ ,แก๊สรั่วในบ้าน,ห้องเครื่องยนต์ถูกไฟไหม้ และการนำของใช้ใกล้ตัวมาใช้ดับไฟ เช่น น้ำยาล้างจานสามารถนำมาดับไฟได้ โดยการนำน้ำยาล้างจาน ผสมน้ำ 1 ต่อ น้ำ 3 ส่วน และตีน้ำยาล้างจานให้เป็นฟองมาก ๆ แล้วนำฟองพ่นเข้าไปในเปลวเพลิง ฟองน้ำยาล้างจาน จะทำหน้าที่คลุม เมื่อไม่มีออกซิเจน ก็จะทำให้เปลวเพลิงนั้นค่อย ๆ มอดลง และดับในที่สุด เป็นต้น และหลักสูตรหลักของที่นี่เน้นไปในเรื่องของการดับไฟในลักษณะที่ยากขึ้นไป เช่น พวกสารเคมี หรือน้ำมัน ซึ่งต้องใช้ความอดทนในการอยู่กับความร้อนสูง ซึ่งทาฟต้า นับเป็นโรงเรียนแรกและโรงเรียนเดียวของไทย ที่ไม่เพียงแค่สอนให้เรารู้จักเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับเพลิงไหม้ ที่เกิดขึ้นใกล้ตัวเรา แต่ยังทำให้เราเกิดความกล้าที่จะเผชิญกับความกลัว และกล้าที่จะต่อสู้กับไฟในยามที่เกิดอัคคีภัยอย่างไม่คาดคิด และยังนำความรู้ไปช่วยเหลือสังคมได้ด้วย

เกี่ยวกับสถาบันฝึกดับเพลิงชั้นสูงทาฟต้า
          สถาบันฝึกดับเพลิงและกู้ภัยชั้นสูงทาฟต้าเป็นโรงเรียนฝึกสอนดับเพลิงและกู้ภัย ชื่อก็บอกว่า ขั้นที่สูง กว่าดับเพลิงขั้นพื้นฐานตามกฏหมายไทยที่กำหนดว่า ให้มีการฝึกดับเพลิงให้กับพนักพนักงานทั่วไป ไม่น้อยกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่จำกัดระยะเวลา แต่ในสถานประกอบการบางอย่างเช่น คลังน้ำมัน โรงกลั่น เรือสินค้า เรือน้ำมัน ที่วิ่งไปยังต่างประเทศ หรือบริษัท ข้ามชาติ รวมทั้ง หัวหน้าหน่วยดับเพลิง หน่วยฉุกเฉิน ต่างๆ ที่จะต้องใช้ความรู้มากกว่าดับเพลิงขั้นพื้นฐาน โดยจะต้องใช้สถานที่ฝึก ที่กว้าง เหมาะสม และครูฝึกที่มีประสบการณ์ จากการทำงานกับ อุตสาหกรรมใหญ่ๆ ที่มีขนาดเท่าเทียมกันหรือว่าใหญ่กว่า เป็นผู้ทำการสอน หรือฝึกอบรมให้ ทาฟต้าจึงเป็นสถาบันฝึกดับแพลิงและกู้ภัยชั้นสูงที่ให้ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้รู้ มากกว่า เข้มข้นกว่า หนักกว่าเหมือนจริงกว่า ใกล้เคียงหรือแม้แต่มากกว่าไฟที่เกิดขึ้นจริงด้วยซ้ำ โดยที่ประเทศไทย ของเรายังไม่บังคับว่าจะต้องมี แต่เพื่อที่จะรองรับ มาตรฐานให้กับบริษัทบริษัทข้ามชาติที่ เข้ามาประกอบกิจการในประเทศไทย โดยมี ครูฝึกมาตรฐาน NFPA , U.S. COASTGUARD สวีเดน และไม่รวม มาตรฐานของอุตสาหกรรมน้ำมัน กว่า 20 ปี โดยไม่ต้องไปเรียนหรือจ้างมาสอนจากต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ ทาฟต้าได้ฝึกอบรม ฝึก สอนดับเพลิงขั้นที่สูง ขั้นรุนแรง ให้กับเจ้าหน้าที่ พนักงานดับเพลิงในประเทศ และประเทศใกล้เคียง กว่า 10,000 คนเศษในระยะเวลากว่า 10 ปี

ความแตกต่างที่ไม่เหมือนใครที่ทาฟต้า
          สถาบันฝึกดับเพลิงและกู้ภัยชั้นสูงหรือทาฟต้ามุ่งเน้นถึงสิ่งที่สำคัญกว่าการดับเพลิงคือความปลอดภัยของพนักงานดับเพลิงหรือนักเรียนผู้ฝึกซึ่ง ทาฟต้า TFRTA ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งตั้งแต่ ศีรษะจรดถึงปลายเท้าด้วยอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน อาทิเช่น หมวกดับเพลิงกันกระแทกและทนความร้อนที่มีแผ่นป้องกันหน้า (FACE SHIELD) ผ้าคลุมศีรษะกันความร้อนและเปลวไฟ (HOOD) ร้องเท้าสำหรับกันไฟ (FIRE FIGHTER) ถุงมือหนัง กันความร้อนและเปลวไฟและที่จะขาดไม่ได้ก็คือ ชุดผจญเพลิง (INTERIOR FIRE FIGHTING SUIT) ซึ่งมีมาตรฐานและผ่านการทดสอบ โดยคณะครูฝึกมาตรฐานจาก NFPAให้การรับรองเพื่อให้ความปลอดภัยสูงสุดของผู้เข้ารับการฝึกอบรมการฝึกอบรมของ ทาฟต้าTFRTA จะเน้นการสั่งการและการติดต่อประสานงานระหว่างภาคหน่วยงานของราชการและภาคเอกชน ในสถานการณ์ดับเพลิงที่เกิดจากน้ำมันและแก๊สและรวมทั้งไฟที่เกิดขึ้นในอาคารที่มีความร้อนสูง ซึ่งมีอันตรายมาก แต่ผู้เข้าฝึกอบรมจะได้รับอุปกรณ์ป้องกันที่ถูกต้องครบทุกคนซึ่งจะรวมทั้งเครื่องช่วยหายใจแบบสะพายหลัง (SCBA = Self-Contained Breathing Aparatus)

สถานที่ฝึกสอน
          สถาบันดับเพลิงและกู้ภัยชั้นสูง ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 9 ตำบล เพนียด อำเภอ โคกสำโรง จังหวัดลพบุรี ห่างจากกรุงเทพ 180 กิโลเมตร ทำเลที่ตั้ง อยู่ในพื้นที่ฝึกหน่วยรบ หน่วยปืนใหญ่ พลร่ม ของกองทัพบก และสถานที่ฝึกการบินของกองทัพอากาศมีภูเขาล้อมรอบอยู่ในพื้นที่ร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้นาๆชนิด

ฐานไฟที่ใช้ในการฝึกประกอบด้วย

          ฐานดับเพลิงที่เกิดกับแก๊ส ของเหลวไวไฟ ความสูง 3 ชั้น, ฐานดับเพลิงที่เกิดกับหน้าแปลนรั่ว 6 จุด, ฐานจำลองสถานที่เก็บ บรรจุแก๊ส ความจุ 5 ตัน 1 ถัง ขนาดความจุ 2 ตัน 5 ถัง, ฐานจำลองอุบัติเหตุที่เกิดจากการขนส่งสารเคมี วัตถุอันตราย สารพิษ สารไวไฟ และยังประกอบด้วยตัวอาคารควัน เพลิงไหม้ ขนาด ใหญ่ 2 ชั้น และอาคารใหม่ 4 ชั้น ที่มีอุณหภูมิความร้อนสูง เพื่อฝึกดับเพลิง กู้ภัย ในอาคาร โรงงาน เรือ โกดัง


อุปกรณ์ดับเพลิงที่ใช้ในการฝึก
          เครื่องสูบน้ำดับเพลิงขนาด 500 GPM แรงดัน 150 PSI . 1 เครื่อง, เครื่องสูบน้ำดับเพลิงขนาด 500 GPM แรงดัน 120 PSI. 1 เครื่อง, เครื่องสูบน้ำดับเพลิงสำรอง, ชุดดับเพลิงใช้ดับเพลิงในอาคารที่มีความร้อนสูง สำหรับทุกคน 50 ชุด, ชุดหายใจอัดอากาศแบบสะพาย ใช้ฝึกดับไฟในอาคารทุกคน, เครื่องอัดอากาศหายใจ SCBA 3 เครื่อง, สายส่งน้ำ หัวฉีดปรับฝอย หัวฉีดโฟม จำนวนมาก เพียงพอต่อการฝึก, เครื่องดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้งมาตรฐาน มอก. UL FM NFPA

การรักษาพยาบาล อุปกรณ์การพยาบาล โรงพยาบาล
          มีเจ้าหน้าที่ พยาบาลวิชาชีพ ประจำตลอดการฝึก 2 ท่าน, มีอุปกรณ์ ช่วยหายใจ เวชภัณฑ์ ประจำสถาบัน, มีครูฝึก และเจ้าหน้าที่ผ่านการฝึก ในวิชาการปฐมพยาบาล และการส่งกลับโรงพยาบาล โคกสำโรง ซึ่งอยู่ห่าง ประมาณ 9 กิโลเมตร ธนาคารเลือด ห้องฉุกเฉิน ฯลฯความร้อนและควันไฟที่จำลองมาให้ใกล้เคียงกับสถานการณ์จริงเพื่อให้ทราบถึงการพัฒนาการของไฟ ตั้ง แต่เริ่มต้น จนถึงจุดที่ร้อนที่สุด ที่เรียกว่าไปไม่กลับ จุดที่ต้องใช้กึ๋นวัดว่าเราจะทำกันอย่างไรชุดดับเพลิงดี การทำงานเป็นทีมเวอรค์ที่ดี จะสามารถช่วย ให้การดับเพลิงในอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความเอื้อ อาทรที่ครูฝึกมีให้กับผู้เข้าฝึกอบรมทุกคน ในขณะที่เพลิงไหม้ภายในอาคารความสูญเสียอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในขณะที่เกิดเพลิงไหม้นั้นมีสาเหตุอยู่สองประการใหญ่ ๆ คือ อันตรายที่เกิดจากความร้อนหรือเปลวไฟและอันตรายที่เกิดจากควันไฟและไอแก๊สพิษซึ่งจะเป็นอันตรายที่มีคุณลักษณะพิเศษที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพราะไอพิษและควันไฟเป็นจำนวนมากและบางครั้งก็สามารถทำอันตรายถึงชีวิตได้ไม่ว่าจะอยู่ใกล้ไกลจากจุดเกิดเพลิงไหม้เพียงใดก็ตามเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นส่วนมากถึงจะเป็นไฟที่มีขนาดเล็กแต่จำนวนปริมาณควันและไอแก๊สที่มีเป็นจำนวนมหาศาลซึ่งจะทำให้การมองเห็นลดน้อยลงรวมทั้งจะเป็นอันตรายกับดวงตาและระบบการหายใจจึงทำให้การหาทางออกในขณะที่ทำการหนีไฟนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบุคคลที่เป็นบุคคลภายนอกหรือผู้มาเยี่ยมเยือนไม่คุ้นเคยกับสถานที่นั้น ๆ ฉะนั้นในการออกแบบแผนก่อสร้างของสถาปนิกก็ต้องคำนึงถึงความยากง่ายในการอพยพหนีภัยในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้หรือเหตุฉุกเฉินต่างๆดังตัวอย่างที่เกิดขึ้นกับสำนักงานใหญ่ๆที่มีห้องทำงานหลากหลายไม่ว่าห้องเก็บของต่างซึ่งอาจรวมทั้งห้องประชุมก็มากมายบางครั้งในยามปกติธรรมดาแขกผู้มาเยือนก็ยังมีการสับสนได้ในบางคราวด้วยซ้ำไปในการที่จะหาทางเข้าออกจากสำนักงานนั้นฉะนั้นป้ายชี้แสดงเส้นทางการอพยพหนีภัยในกรณีฉุกเฉินที่ติดตั้งไว้แน่ชัดและถูกต้องก็จะทำให้เกิดความปลอดภัยกับชีวิตมากขึ้นเท่านั้น

          ความสูงของตึกอาคารสำนักงานก็เป็นส่วนประกอบสำคัญอีกประการหนึ่งเพราะในปัจจุบันอาคารที่ก่อสร้างมานั้นมีความสูงมากเกินกว่ารถกระเช้าของหน่วยดับเพลิงซึ่งอาจจะมีความสามารถเข้าทำการดับเพลิงหรือช่วยเหลือผู้คนที่อยู่ในอาคารนั้นๆได้เพียงอาคารชั้นที่7-8เท่านั้นการออกแบบก่อสร้างที่ดีและถูกต้องจึงมีผลอย่างมากในการที่จะช่วยลดอันตรายและความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อเกิดเพลิงไหม้รูปแบบของอาคารกับอุปสรรคในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงตามขั้นตอนที่ถูกต้องและแนะนำให้ปฏิบัติซึ่งปกติจะไม่ค่อยมีผู้ปฏิบัติไม่ว่าจะติดขัดเรื่องเวลาที่คิดว่าจะต้องเสียไป หรืองบประมาณค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้น เมื่อทางสถาปนิกผู้ออกแบบ หรือเจ้าของผู้ลงทุนก่อสร้างอาคารสำนักงานนั้น ๆ คิดว่าเมื่อปฏิบัติตามกฎหมายเท่าที่มีอยู่ในแต่ละเมืองแต่ละประเทศก็คิดว่าพอเพียงแล้วโดยอาจจะลืมคิดถึงไปว่าความถูกต้องในเชิงปฏิบัติตามสากลนิยมเขาควรจะปฏิบัติให้ถูกต้องและดีที่สุดอย่างไรในขณะที่เกิดเพลิงไหม้ขึ้นนั้นขั้นตอนในการปฏิบัติของหน่วยดับเพลิงคือ การอพยพช่วยเหลือผู้คนการควบคุมเพลิงและดับเพลิงจนถึงการควบคุมไม่ให้เพลิงที่ดับไปแล้วลุกไหม้ขึ้นมาอีกหรือทำความเสียหายตามมาหลังจากเพลิงสงบไปแล้วก็ตามเช่นอาคารที่เกิดชำรุดเสียหายจากเพลิงไหม้พังทลายลงมาเป็นอันตรายกับบุคคลที่เกี่ยวข้องฉะนั้นอาคารที่พักสำนักงานยิ่งมีความสูงหรือขนาดใหญ่มากขึ้นเท่าไรก็จะต้องใช้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยมากขึ้นเท่านั้นซึ่งในบางกรณีจะต้องทำการดับเพลิงและช่วยชีวิตผู้ที่อาจติดอยู่ภายในอาคารไปพร้อม ๆ กัน

          ช่องทางเข้าออกที่ใช้สำหรับการอพยพหนีภัยและดับเพลิงการออกแบบโครงสร้างของอาคารสำนักงาน จะเป็นส่วนสำคัญในการที่จะทำให้ไฟง่ายที่จะขยายแผ่วงกว้างขึ้นด้วยความรวดเร็วหรือช้าก็ขึ้นอยู่กับแบบและวัสดุที่ใช้ก็เป็นส่วนหนึ่งแต่ที่สำคัญอีกประการคือเมื่อเกิดเพลิงไหม้แล้วทางสำหรับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยที่จะเข้าออกสู่อาคารที่เกิดเหตุนั้นพร้อมอุปกรณ์ซึ่งเราจะกล่าวเฉพาะตัวอาคารเท่านั้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอาจจะพบกับอุปสรรค์หลาย ๆ อย่างในการที่เข้าทำการดับเพลิงไม่ว่าจะเป็นตึกที่มีขนาดใหญ่มีหลายชั้นเพราะเป็นอาคารสูงกรอบประตูกำแพงผนังกั้นห้องต่างๆซึ่งจะเป็นตัวกั้นไม่ให้ควันและความร้อนแผ่ระบายออกสู่ภายนอกหรือห้องอื่นๆ ควันไฟเมื่อสะสมมากขึ้นก็จะทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถมองเห็นจนทำให้การช่วยเหลือผู้คนที่ติดอยู่รวมทั้งการดับเพลิงไม่ประสบความสำเร็จตึกที่ไม่มีหน้าต่างหรือพื้นที่อับเช่นห้องใต้ดินก็จะสร้างปัญหาเป็นอย่างมากในการดับเพลิงสาเหตุเพราะควันไฟและความร้อนจะสะสมอยู่ภายในไม่สามารถจะระบายออกสู่ภายนอกฉะนั้นการออกแบบวางแปลนห้องช่องทางเข้าออกต่างๆของตัวอาคารหากมีจำนวนไม่เพียงพอในการที่จะเข้าทำการดับเพลิงก็ควรให้มีการเพิ่มเติมแก้ไขให้มีระบบป้องกันดับเพลิงต่างๆเพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็นระบบหัวฉีดน้ำเป็นฝอยแบบอัตโนมัติ (Automatic sprinkler system) เพิ่มเติมความทนทานไฟของผนังกำแพงกั้นห้องให้ยาวนานขึ้น จัดให้มีหัวฉีดพร้อมสายต่อเข้ากับระบบน้ำดับเพลิงของอาคารเองและจากดับเพลิงจากภายนอก นอกเหนือจากนี้อาจจะมีระบบระบายควันอัตโนมัติแต่ระบบหัวฉีดน้ำเป็นฝอยแบบอัตโนมัติจะเป็นระบบที่ดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นการป้องกันแบบใดก็ตามในส่วนของการระบายอากาศควันไฟการระบายควันและอากาศพิษจะเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการควบคุมเพลิงเพราะจะแสดงถึงความสามารถและประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงว่าประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวในการดับเพลิงอันมีต้นเหตุมาจากการระบายควันไฟไอพิษและความร้อนออกจากอาคารการระบายเอาสิ่งดังกล่าวออกไปจากอาคารนั้นจะมีผลและความสัมพันธ์ต่อเนื่องกับเพลิงไหม้คือลดอัตราการเสียชีวิตให้น้อยลงในกรณีที่มีผู้ติดอยู่ภายในอาคารได้แก่ทำให้สภาวะการมองเห็นของพนักงานดับเพลิงดีขึ้นและสามารถเข้าใกล้จุดที่เป็นเพลิงไหม้จริง ๆ, ทำให้การดับเพลิงใช้เวลาน้อยลง อัตราการสูญเสียก็จะลดลงด้วย,สามารถควบคุมทิศทางการแผ่ขยายของเพลิงไหม้ให้เป็นไปตามทิศทางที่ต้องการซึ่งสามารถช่วยชีวิตผู้ที่ติดอยู่ภายในและป้องกันทรัพย์สินที่มีค่าได้อีกด้วยเป็นการระบายควันพิษและแก๊สพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ ก่อนที่จะเกิดการสะสมเป็นควันแก๊สไวไฟ เพราะหากไม่ระบายแล้ว ก็จะเกิดการระเบิดที่เกิดจากตัวของควันเอง เกิดจากมีอากาศเข้าสู่กลุ่มควันและแก๊สไวไฟนั้น ๆ (Smoke Explosion and Backdraft) และเป็นการลดความร้อนให้กับเจ้าหน้าที่ที่เข้าปฏิบัติการภายในอาคาร

ปริมาณการการใช้น้ำและการดับเพลิงด้วยน้ำ
          น้ำยังคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ใช้ในการดับเพลิงที่เกิดขึ้นกับอาคารนอกเหนือจากระบบอื่นๆ ที่อาจจะนำมาติดตั้งเช่นระบบดับเพลิงด้วยก๊าซเฉื่อย (คาร์บอนไดออกไซด์ ฮาลอน) หรือชนิดผงเคมีแห้งฉะนั้นปริมาณน้ำและแรงดันน้ำที่ใช้ในการดับเพลิงจะต้องมีอย่างเพียงพอไม่ว่าจะเป็นการเดินท่อจากรถดับเพลิงของหน่วยท้องถิ่นหรือมีถังเก็บบรรจุน้ำระบบปั้มน้ำของตัวอาคารเองก็ตามก็ควรจะต้องคำนึงถึงขนาดปริมาณและแรงดันของน้ำในท่อดับเพลิงว่าเพียงพอหรือไม่โดยเฉพาะอาคารที่มีความสูงมากๆหรือกว้างใหญ่มากด้วยในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้เป็นพื้นที่กว้างและจะต้องใช้น้ำในการดับเพลิงด้วยระบบหัวฉีดน้ำแบบเป็นฝอย (Sprinkler) หรือด้วยหัวฉีดน้ำก็ตาม ปริมาณและแรงดันของน้ำภายในท่อจะลดลงด้วย หากมีการใช้น้ำจำนวนที่มาก ฉะนั้นจุดรับน้ำให้กับข้อต่อพิเศษสำหรับต่อให้กับตัวอาคารนั้น จะต้องอยู่ในจุดที่สามารถมองเห็นได้ง่าย สามารถปฏิบัติงานเข้าออกและต่อท่อเข้ากับท่อดับเพลิงของอาคารได้สะดวกและรวดเร็วการระบายน้ำที่ใช้แล้วจากการดับเพลิงปริมาณน้ำที่เกิดจากการดับเพลิงจะมีผลกระทบต่อการปฎิบัติการขั้นสุดท้ายที่จะหาจุดที่อาจจะยังคงติดไฟอยู่ หรือขั้นตอนสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ และสำรวจความเสียหายหลังจากเกิดเพลิงไหม้ หน่วยดับเพลิงจะต้องหาจุดและท่อที่จะสามารถระบายน้ำที่เกิดจากการดับเพลิงออกจากอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ซึ่งอาจจะเป็นผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตและทรัพย์สินหากเกิดภาวะรับน้ำหนักไม่ไหว ผลกระทบและการออกแบบและวางแบบของอาคารโดยสถาปนิก จะเป็นผลกระทบโดยตรงและสำคัญอย่างมากในการดับเพลิงไม่เพียงแต่เป็นการยากง่ายในการปฏิบัติการเข้าออก จะเป็นตัวกำหนดขอบเขตความสามารถในการที่จะควบคุมเพลิงจะลดลงเมื่อไฟได้ลุกลามไปในแนวดิ่ง คือลามขึ้นชั้นต่อๆ ไป เพราะในบางครั้งสาเหตุเนื่องจากการออกแบบ และวัสดุที่ใช้ เป็นฝ้า ผนังกำแพงกั้น ช่องระบายเครื่องปรับอากาศ ด้วยส่วนประกอบดังกล่าวมานั้นจะเป็นตัวทำให้ไฟสามารถลุกลามในแนวดิ่งไปยังชั้นต่อ ๆ ไปได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น

          เวลาคือกุญแจสำคัญจะเป็นทั้งตัวกำหนดอัตราการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินหากสามารถดับเพลิงได้เร็วเพียงใดความสูญเสียก็จะลดลงเท่านั้นฉะนั้นหากเราสามารถจะรู้ว่าเกิด

          เพลิงไหม้เร็วเท่าใดจากตัวรับสัญญาณที่ติดตั้งก็จะทำงานเมื่อได้รับความร้อนหรือควันไฟเมื่อได้ยินสัญญาณเตือนดังขึ้นแล้วก็จะอยู่กับการปฏิบัติตามขึ้นตอนการดับเพลิงและควบคุมเพลิงอย่างถูกต้องซึ่งในขั้นตอนนั้นๆจะประกอบไปด้วยการแจ้งสัญญาณฉุกเฉินเตือนไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องทราบการพยพหนีภัยออกจากตึกคงเป็นข้อปฏิบัติเบื้องต้นสำหรับตึกอาคารขนาดเล็กแต่หากว่าในกรณีที่เป็นตึกหรืออาคารสูงนั้นจะต้องประสบกับปัญหายุ่งยากมากมายไม่ว่าจะเป็นผู้คนที่เกี่ยวข้องเวลาที่ใช้จะเป็นเวลาที่ยาวนานมากควรจะมีพื้นที่ที่เป็นที่ปลอดภัยสำหรับหลบภัยภายในตัวอาคารสูงเองและขั้นตอนการปฏิบัติจะต้องถูกจำแนกออกเป็นกรณีๆไปแล้วแต่สถานการณ์ที่อาจจะถูกสมมุติขึ้นเพื่อทดสอบขั้นตอนการอพยพที่ถูกต้องระบบป้องกันการแจ้งเตือนและการติดต่อสื่อสารส่วนการติดต่อสื่อสารนั้นจะเป็นตัวช่วยทำให้การดับเพลิงมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นและเป็นการเตือนแนะนำผู้เกี่ยวข้องให้สามารถปฏิบัติงานได้ตามวัตถุประสงค์รวมทั้งเป็นการติดต่อกับหน่วยดับเพลิงจากภายนอกเพื่อเข้ามาช่วยเหลือเป็นต้นบางครั้งผู้คนที่อยู่ในบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้เข้าใจผิดไปว่าเมื่อมีผู้ใดกดสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้แล้วจะเป็นการแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับทราบในทันทีซึ่งในความเป็นจริงส่วนมากจะไม่ได้เป็นอย่างนั้นฉะนั้นจึงควรจำไว้ว่าการแจ้งเหตุฉุกเฉินจะใช้เวลาไม่กี่วินาทเท่านั้นเพื่อแลกกับเวลาที่อาจจะเสียไปเป็นเวลาหลายสิบนาทีกว่าที่หน่วยดับเพลิงจะมาถึงในขณะที่เกิดเพลิงไหม้นั้นจะต้องทำความควบคุมเพลิงให้อยู่ในพื้นที่จำกัดและปล่อยให้เพลิงไหม้จนกว่าจะไหม้วัสดุที่สามารถติดไฟจนหมดไปหรือโดยการควบคุมการแผ่ลุกลามขยายของเพลิงไหม้เพื่อถ่วงเวลาให้การอพยพผู้คนออกจากพื้นที่อันตรายจนหมดเสียก่อนการควบคุมทางตรงตั้งแต่การออกแบบก่อสร้างโดยวิธีใช้วัสดุทนไฟเช่นกำแพงห้องฝ้าเพดานต่างๆระยะเวลาที่กำหนดเป็นมาตรฐานว่าสามารถคงทนได้นานอย่างน้อยเท่าไรก็อยู่กับว่าเป็นส่วนไหนของอาคารมีความสำคัญอย่างไรบ้างหากเป็นพื้นที่ๆมีผู้คนอยู่เป็นจำนวนมากก็จะต้องใช้วัสดุที่ทนความร้อนได้นานนานพอที่จะทำการเคลื่อนย้ายคนและมีเวลาพอที่หน่วยดับเพลิงจะสามารถเข้ามากู้สถานการณ์ให้ดีขึ้นเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความที่เขียนมาแล้วข้างต้นจะช่วยมีส่วนให้ผู้รับผิดชอบตั้งแต่การออกแบบการควบคุมการก่อสร้างเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ได้พิจารณาเตรียมการล่วงหน้าก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้นเพราะเมื่อถึงวันนั้นเวลานั้นมันอาจจะสายเกินกว่าที่เราจะทำการแก้ไขใดๆได้ขอให้ตั้งใจใส่ใจในการดำเนินงานและเตรียมการับสถานการณ์ขอให้โชคดีและปลอดภัย


ติดต่อ
สถาบันดับเพลิงและกู้ภัยชั้นสูง ทาฟต้าหมู่ที่ 9 ตำบล เพนียด อำเภอ โคกสำโรง จังหวัดลพบุรี สำนักงาน โทร 02 385 4853 , 081 867 6825
http://www.thaifire.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น