เริ่มจาก วันไปที่กำหนดน่ะครับ ผมไป คืนวันที่ 30 ธันวาคม 2552 กลับวันที่ 2 มกราคม 2553 น่ะครับ ว่าจะไป ฉลองปีใหม่ที่ บนยอดภูเลยครับ ^^ ก็เริ่มจาก หาข้อมูลการจองที่กางเต็น จองไว้ 2 คืนครับ จองผ่านทางอินเตอร์เน็ตครับในราคา 300 บาทสำหรับนอน 2 คน ที่จอง 2 คืนเพราะ ไปนอนคืนวันที่ 31กับ1 พอจองแล้วก็ ไป โอนเงินครับ ที่ธนาครากรุงไทแล้วก็เก็บใบเสร็จไว้ สำหรับใช้ลงทะเบียนครับ ( ที่จริงหากใครต้องการจอง บ้านพัก หรือ เต็นก็ได้เลยน่ะครับ โอนเงินไว้เลย แล้วพอไปถึงก็ไปลงทะเบียนรับของที่จองไว้ครับ) พอได้ที่พัก แล้ว คราวนี้ก็ จองตั๋วรถทัวต่อเลยครับ พอดีต้องไปจองที่สถาณีครับ เพราะคนเยอะ ตั๋วรถทัว ดีๆ เต็มหมด เลยไปมันที่สถาณีเลย ได้ตั๋วมา 2 ใบครับ ราคา 2 ใบ 1200 บาทครับ ไปกับน้อง ชาย 2 คนเนื่อง จากช่วงนั้น เพิ่งทะเละกะ แฟน เค้าเลยไม่ไปด้วย T_T บ่นไรเนี่ยเรา เห้อ........ เอ้าพอได้ตั๋วมาแล้วก็ จัดเตรียมกระเป๋าเสื้อผ้า กับ อุปกรณ์ เต็นแล้วก็ถุงนอนครับ เสร็จแล้ว ครับ เสร็จแล้วก็เตรียมตัวเตรียมใจครับ เหนื่อย แน่ งานนี้ เดินเขา 555+++
เริ่มเดินทางเลยครับ
วันแรกครับเริ่มออกเดินทาง จากบ้านครับ ผมพักที่ปากน้ำ สมุทรปราการครับ ก็เริ่ม จาก18.00น. ขึ้น รถเมล์สาย 25 ไปที่ขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานี อ่อนนุช ตอน 18.40 ครับ ปลายทางที่สถาณี หมอชิต ก็ถึงเวลา 19.50น. แล้วก็มาต่อรถ ไปเข้าสถาณีด้วย Taxi อ่ะ สุดยอด คนเยอะสุดๆ จริงๆ ก็มีรถมอไซร์ น่ะ แต่ คนแย่งกันขึ้นเยอะมาก เลยหนี มาขึ้น Taxi แทน พอมาถึงแล้วก็แวะ กินข้าวที่สถาณีก่อนเลย แล้วก็ ซื้อ พวกถ่านไฟฉาย, ไฟฉายเพิ่ม อีกอัน กันไว้ครับ แล้ว ก็ ครีมอาบน้ำ, ยาสีฟัน , ยาสระผม ,พอได้ครบแล้ว ก็ ประมาณ 3 ทุ่มพอดี ก็ไปที่จอดรถเลยครับเวลาที่นัดไว้ก็ 4 ทุ่ม30 ครับ กะว่าขึ้นรถก็นอนยาว ชัตเตอร์กดติด วิญญาณ ตากล้อง มือสั่น 555+++
ยังครับมันไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะมันต้องมีอุปสรรค ถึงจะมัน ก็ไอ้เจ้ารถที่จองไว้ดิไปไหนก็ไม่รู้เดินหาครับไม่เจอ พอเจอเจ้าหน้าที่ก็บอกให้รอ เพราะเป็นรถทัวร์ของบริษัทไรก็ไม่รู้ไม่ใช่ของขนส่ง ซวยเลยครับยืนรอเกือบ ครึ่งชั่วโมง เค้าก็สงสารมั้งเลยจับพวกผม ยัดใส่ รถทัวร์สาย ชุมแพ ครับ นั่งหลังสุดเลย เบียดกันแน่นเลยครับ โอ้ ไม่ได้นอนเลย นอนก็ไม่หลับ ยังอีกครับ มันก็ยังไม่จบ เพราะ เจ้ารถที่ผมนั่งมาเนี่ย ดันมาหมดระยะ ตอน ตี 4 กว่าๆ ที่ชุมแพครับ พระเจ้า มันจอดให้ผม รอต่อรถอีกคันครับ เป็นรถที่ไปเมืองเลย โห...สุดๆ แต่ยังดี ที่มันไม่เก็บตังค์เพิ่ม พอขึ้นรถคันใหม่ได้ ก็ไม่มีที่นั่งอีก นั่งมันตรงบันไดเลย ไปลงไหนก็ไม่รู้ ก็ถามเค้าไปทั่วเลยครับ ได้ คำตอบสุดท้าย ก็ คือให้ลงที่ “ผานกเค้า” เพราะที่นั่นสมารถจองตั๋วกลับได้เลย พี่เค้าบอกจองที่ร้าน เจ้กิม ครับ เราก็เป็นคนซื่อ เชื่อเลย ไม่มีเถียงหรือ สงสัย เพราะก่อนไปก็หาข้อมูลมาบ้าง แต่ที่ถามเพราะกันพลาด ครับพอมาถึงก็ประมาณ 07.20น. ที่ “ผานกเค้า” ลงรถได้ก็ ปรี่เข้าไปจองตั๋วก่อนเลย แต่รอบนี้ถามยาวเลย กลัวโดนเหมือนขามาครับ เข็ดเลย หรอกกันได้ คนไทย -_-! แต่รอบนี้ดี หน่อย เค้ารับประกันครับ บอกว่า ทุกที่นั่งมีหมายเลข ครับขายแค่ ที่นั่งเต็มไม่มีเสริม ก็เลยสบายใจ พอเสร็จแล้วก็ไป กินข้าวกัน ก็ที่ร้านเจ้กิมเนี่ยแหละครับมีทุกอย่าง ทั้งของกิน ข้าว ของฝาก แถมที่ร้านเค้ายังมีบริการ อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน ฟรีครับไม่คิดเงิน สถานที่ก็กว้างขวางดีครับ รับคนเยอะๆ ได้สบาย
มุมนี้เป็นมุม ที่ถ่ายออกไป จากหน้าร้าน เจ้กิม ครับ ยอดเขาที่เห็นเค้าเรียกว่า "ผานกเค้า"
พอหลังจากอาบน้ำ ทำธุระกันเสร็จ แล้ว ก็ มานั่งรอขึ้นรถสองแถว ขึ้นไปที่สถาณีอุทยานแห่งชาติ ภูกระดึงครับ 2 คน ละ 25บาท ก็ 50 บาทพอดี
รูปรถสองแถว ที่จะพาเราไปครับเรา ด้านหลังมีอีกหลายคันเลย นักท่องเที่ยวเยอะ
เอาแค่ นี้ก่อนน่ะครับ วันนี้ เหนื่อย อ่ะ งานก็ ยุ่งงงงงงง ^^
เดี๋ยว ตอน ต่อ ไป จะพาขึ้นภูกระดึง น่ะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น